 |
ตอนที่ 2 |
 |
ตอนที่ 2
|
| ครูนอกคอก : ตอนที่ 2 เมื่อหัวใจสะพายเป้จะจัดค่ายธรรมะ โดยใช้ชื่อว่าค่ายธรรมชาติ พุทโธ น่าจะเป็นครั้งแรกที่มีแนวคิดจะจัดค่ายธรรมะ เป็นความโชคดีที่ได้รับงบประมาณจากกองทุนคุ้มครองเด็กจังหวัดตราด โดย ดร.ประธาน สุรกิจบวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เป็นผู้อนุมัติงบให้กับเรา ตัวผมก็ดีใจมากครับที่ท่านได้เล็งเห็นถึงเด็กและเยาวชนกลุ่มเล็กๆ ของพวกเรา ที่ขาดไม่ได้ยังมีบุคคลหลายท่าน อาทิ ท่านหัวหน้า พมจ.มนิดา ลิ่มนิจสรกุล ไม่รู้จะเรียกท่านอย่างไรดี พี่รุ่ง น้องเอ และใครก็ไม่รู้อีกท่าน ที่ผมคุยโทรศัพท์ด้วยบ่อยๆ แต่ไม่ยอมถามชื่อซักที 55 พี่แหม่ม ที่เป็นตัวแทนนำเสนอโครงการให้ผม พี่สุดยอดจริงๆ เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อผมได้ไปติดต่อพระอาจารย์ที่วัดเมืองเก่าแสนตุ่ม วัดที่ไกลแสนไกล ฟากอำเภอเขาสมิง โดยมีพี่อ้อย (ครูรัชนีนาถ ปาลสุข ครูโรงเรียนวัดอ่าวช่อ) พี่แหม่ม (ครูปาหนัน ปาลสุข ครูโรงเรียนคีรีศรีสาครวิทยา) และน้องเจ (เด็กชายปัญญา เจริญชีพ นักเรียนโรงเรียนบ้านเกษมสุข) ติดตามไปด้วย ผมก็ไปแบบไม่ได้นัดหมายใครทั้งนั้น โชคดีนะที่ไปถึงแล้วได้เจอพระอาจารย์ (พระครูครุนาถสมาจารย์) หลังจากที่ได้พูดคุยกันเป็นปี่เป็นขลุ่ย สรุปไอ้ครูนอกคอกแบบผม ก็ได้เปิดประเด็นไปว่า ค่ายธรรมะของผม ไม่เอานั่งสมาธิ ไม่เอาเดินจงกรม ไม่เน้นทฤษฎี ไม่ดูวีดีโอแม่คลอดลูกแล้วเด็กนั่งร้องไห้อย่างนี้ไม่เอา เด็กไม่ต้องนั่งจุดเทียน ไม่บิณฑบาตรความดี ไอ้สิ่งที่เคยทำแล้วไม่เอา แม่เจ้า ทุกคนต่างตกใจกับแนวคิดแบบนี้ของผม ที่คุยกันมาแสนนานคือไม่เอา แล้วมันจะจัดค่ายธรรมะได้อย่างไร สุดท้ายผมได้บอกไปว่าผมต้องการฝึกเยาวชนให้เป็นแบบธรรมชาติมากที่สุด ใช้ทักษะชีวิต เน้นการปฏิบัติ เยาวชนทุกคนจะได้อยู่กับธรรมชาติกับตัวตนของตนเอง ได้หุงข้าวทำกับข้าวด้วยกัน ระหว่างทำจะต้องมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน การอยู่และเรียนรู้กับธรรมชาติ การอยู่กับสมาธิด้วยการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งด้วยตนเองอย่างมีสติ และแล้วผมก็ลาพระอาจารย์กลับบ้าน ทิ้งโจทย์ไว้ในการจัดค่ายธรรมะของหัวใจสะพายเป้...ตอนนี้เป็นไงกันบ้างครับคิดออกกันหรือยัง คอยติดตามค่ายนี้ของผมกันนะครับว่าจะออกมาเป็นแบบไหน |
|