เพราะบอกว่าอบรมครูกระบวนกรพัฒนาคุณธรรมผู้เรียนด้วยการเรียนเชิงรุก และที่สุดงงงงงง คือให้นำหมอนมาด้วย
อบรมคุณธรรม ทำไมต้องมีหมอนด้วยว่ะ (ขออภัยอาจไม่สุภาพ)
อบรมคุณธรรมต้องเจอะ การภาวนา พุทโธ พุทโธ ยุบหนอ พองหนอ อีกแน่ แน่ แน่
แค่เริ่มต้นผู้เข้ารับการอบรมก็งงแล้ว
พิธีเปิดที่ทุกคนนั่งรอบวงกันแล้วต่อการแนะนำตนเองและกิจกรรมละลายพฤติกรรม อ่านต่อได้ที่นี่
ตลอดการจัดกิจกรรมดร.ขจิต นำพวกเราเรียนรู้ โดยไม่รู้สึกว่า กำลังเรียนรู้ อาจกล่าวได้ว่าเป็นการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม
และตลอดเวลาก็ปลุก และเร้าให้นำหมอนที่นำมาให้ประโยชน์ได้ตลอดกิจกรรม
โดยเฉพาะกิจกรรมผ่อนพักตระหนักรู้ ผมก็พบสัจจธรรมเช่นกันว่าใช้หมอน กับ ไม่ใช้หมอน การเข้าถึงมันต่างกันอย่างที่อาจารย์ดร.ขจิต บอกไว้ เพราะมันทำให้อาจารย์ขจิต ได้ยินเสียงแห่งความสุขของผมเช่นกัน
ตลอดการฝึกอบบรม 2 วัน ผู้อำนวยกร คือ ดร.ขจิต ฝอยทอง
นำพวกเราเรียนรู้โดยใช้กิจกรรม (Active Learning)
สอดแทรกกิจกรรมคุณธรรม จริยธรรมโดยที่ผู้อบรมเห็น และรู้สึกได้ว่ามันทำได้จริง
หลังจากเล่นกิจกรรมแล้ว ครูกระบวนกรทุกคนก็มานั่งรอบวง แลกเปลี่ยนเรียนรู้ว่าได้แนวคิด ได้เรียนรู้อะไรจากกิจกรรมในแต่ละกิจกรรม และถ้านำไปจัดกิจกรรมแก่นักเรียน นักเรียนจะได้เรียนรู้อะไรที่เกี่ยวกับการพัฒนาคุณธรรมผู้เรียนบ้าง
การฝึกอบรมค้นพบได้ว่า
เป็นกระบวนการเรียนรู้ที่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ ความรู้ ศักยภาพของแต่ละคนเป็นหลัก เน้นใช้กระบวนการทางความคิด ยึดผู้อบรมเป็นศูนย์กลางของการค้นหาและสร้างความรู้ วิทยากรจะเป็นผู้ช่วยเหลืออำนวยการกิจกรรมให้เกิดการเรียนรู้ นี่กระมั่งที่เรียกว่า “ครูกระบวนกร”
วิทยากรกระบวนการจะจัดกิจกรรมเพื่อให้ ผู้เข้าอบรมสร้างความรู้ด้วยตนเอง ช่วยให้มีปฏิสัมพันธ์ ต่อกัน เพื่อการมีส่วนร่วม ในกระบวนการการทบทวนการเรียนรู้ ควบคู่ไปกับอบรมที่เกิดขึ้น อีกทั้งยอมรับ ผลการเรียนรู้ร่วมกัน แล้วนำกลับไปประยุกต์ใช้.
ขอบคุณท่านรองวิชชา ครุปิติ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาตราด และดร.ขจิต ฝอยทอง มอบโอกาสแก่คณะครูศูนย์เครือข่ายพันธมิตรสถานศึกษา 19 ศูนย์ ทุกท่านอีกครั้งครับผม