ปี 2559 ในทุกๆ การทำงานล้วนมีปัญหาและอุปสรรค ชมรมหัวใจสะพายเป้ก็เช่นกัน โดยลำพังผมเองไม่สามารถพาองค์กรของผมเดินต่อไปได้ ถ้าขาดการสนับสนุนที่ดี เพื่อให้องค์กรเรามีชีวิตรอดอยู่ได้เราไม่สามารถนิ่งเฉยและยอมรับสภาพที่เป็นไป ผมจึงได้ขอจัดตั้งองค์กรสาธารณะประโยชน์ขึ้น โดยเป็นคำแนะนำของ นางสาวมนิดา ลิ่มนิจสรกุล พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดตราด และชมรมหัวใจสะพายเป้ ได้ร่วมเป็นเครือข่ายของสภาเด็กและเยาวชน จังหวัดตราด เป็นอีกก้าวหนึ่งของเรากับการเดินทางตามหาความฝัน
ปี 2560-2563 ตามที่ได้จัดตั้งเป็นองค์กรสาธารณประโยชน์ ชมรมหัวใจสะพายเป้มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วเพราะได้รับงบประมาณอย่างต่อเนื่องในการพัฒนาเด็กๆในชมรม มีการจัดทำศูนย์การเรียนรู้ชมรมหัวใจสะพายเป้ ตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีหน่วยงานต่างๆให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เห็นได้จากการมาศึกษาดูงานเป็นจำนวนมาก ชมรมหัวใจสะพายเป้ได้พัฒนาในหลายรูปแบบ ทั้งด้านการเกษตรและธุรกิจร้านขายน้ำของชมรม ในนาม สะพายเป้คอฟฟี่ ซึ่งร้านนี้สามารถดูแลเด็กๆในชมรม โดยไม่ต้องนำเงินมาโรงเรียน อาหารกลางวันฟรี น้ำฟรี เป็นการแบ่งเบาภาระของครอบครัว เกิดทีมฟุตบอล สะพายเป้ FC ต่อยอดด้วยการส่งเด็กๆเข้าร่วมทีม MAP ACADEMY เป็นความสำเร็จอีกรูปแบบหนึ่งผ่านเครือข่ายต่างๆ มีกิจกรรมเอามื้อสามัคคี จากเครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติ การไปศึกษาดูงานตามสถานที่ต่างๆ อาทิ ฟาร์มเห็ดเขาใหญ่พาโนรามาฟาร์ม สวนเกษตร ในอำเภอปากช่อง เขาใหญ่ ทุกสิ่งล้วนทำให้เด็กๆในชมรมเกิดการพัฒนา การทำงานชมรมมาพร้อมกับชื่อเสียงที่มากขึ้น หลายหน่วยงานสนใจ แต่แล้วผมก็ตัดสินใจปิดตัวชมรมลงในเดือนมีนาคม ปี 2563 ด้วยเหตุหลายปัจจัยไม่ขอกล่าวถึง
18 พฤษภาคม 2563 ผมตัดสินใจเปิดชมรมหัวใจสะพายเป้อีกครั้ง ในพื้นที่ของตนเอง กับภารกิจใหม่ๆ ในการพัฒนาชุมชน ภายใต้วิสัยทัศน์ "พัฒนาคนเพื่อชุมชน" ทั้งนี้ได้จัดตั้งโรงเลียนหัวใจสะพายเป้ขึ้น เพื่อเป็นพื้นที่สร้างสรรค์ในการเลียนแบบสิ่งดีร่วมกัน ของเด็ก เยาวชนและบุคคลในชุมชน ระยะเริ่มต้นเป็นการพัฒนาพื้นที่เพื่อเอื้อต่อการพัฒนา น่าอยู่ ส่งเสริมและพัฒนาเด็กๆ ในช่วงปิดภาคเรียน ในการมาเรียนทำอาหาร เรียนภาษาอังกฤษพื้นฐาน และอื่นๆ
ทศพล ถนอมพงษ์
ผู้เขียน