บทที่ 21
บทที่ 21
คุณเคยเหงาไหมครับ ความเหงาของผมเกิดจากการปิดเทอม ผมไม่ชอบให้ปิดเทอมครับ เพราะไม่ได้ทำงานร่วมกับเด็กๆ การทำงานชมรมหัวใจสะพายเป้ต้องคลุกคลีกับเด็กๆ ผมต้องเป็นได้ทั้งครู พี่ชาย เพื่อน ในคนๆ เดียว ทำไมนะเหรอ เพราะงานชมรมของผมทำไม่เป็นเวลา บางทีก็เสาร์อาทิตย์ บางทีก็ตอนกลางคืน โดยเฉพาะงานวีดีโอ พวกเราต้องหลับคาคอมพิวเตอร์ก็มี งานไหนที่ต้องรีบตัดต่อก็ต้องยกคอมพิวเตอร์กลับบ้านพัก แต่เราก็มีความโชคดี โรงเรียนมีการจัดกิจกรรมอะไรเราก็ต้องไปกับเขาด้วย ไป...ถ่ายภาพ ถ่ายวีดีโอ เหมือนเป็นการไปเที่ยวไปในตัว ถึงผมได้บอกว่าผมไม่ค่อยมีวันหยุดก็เพราะเหตุนี้ แต่บางทีก็เพราะสมองของผมนี่แหละชอบคิดก็เลยต้องทำ วิธีขจัดความเหงาของผมก็คือการขี่มอเตอร์ไซด์ไปหาพ่อแม่ของนักเรียนเป็นการเยี่ยมบ้านไปในตัว ผมชอบไปนั่งคุยทำให้การทำงานของผมราบรื่น เพราะบางทีเด็กๆ ต้องขี่มอเตอร์ไซด์มาทำงานตอนกลางคืน บางครั้งเขาก็พักค้างที่ห้องคอมพิวเตอร์หรือบ้านพักของผมเลย เราอยู่กันเหมือนครอบครัวอยู่แล้วครับ เวลาไม่มีพวกเขามาทำงานเป็นเพื่อนทำให้วังเวงเงียบเหงาไปเลยล่ะครับ อาการหนึ่งที่ผมชอบเป็นคือการลงนอนตอนกลางคืนแล้วรู้สึกเหงาแบบบอกไม่ถูก มันทุรนทุรายชอบกล วิธีแก้ก็คือขับมอเตอร์ไซด์ออกไปรอบตลาดหนึ่งรอบก็นอนหลับได้ครับ บางครั้งตอนสี่ทุ่มเขานอนกันหมดแล้วผมก็ต้องออกไป คิดแล้วก็ตลกกับตัวเอง อีกอย่างนึงการที่ผมทำงานกับเด็กๆ อยู่บ่อยๆ ผมชอบลองใจพวกเขาว่าเขารักผมบ้างไหม วันนึงผมเจ็บตา ซึ่งก็ไม่ได้อะไรมากแค่ตาแดงๆ นิดหน่อย ก็เลยนึกสนุก ผมโทรไปหาเด็กที่สนิทและรักที่สุด ผมโทรไป
ผม : เอ(นามสมมุติ) ซื้อข้าวให้ครูหน่อยได้ไหม ครูไม่สบาย
เอ : ผมไม่ว่างครับครู ช่วยแม่ทำงาน
ผม : แบ๊ปเดียวเอง
เอ: ไม่ว่างจริงๆ ครับ
ผม: งั้นไม่เป็นไรแค่นี้นะ

นี่คือเด็กที่ผมรักที่สุดครับ ดูคนที่สองสิ
ผม : บี ครูไม่สบาย ซื้อข้าวให้ครูหน่อยได้ไหม
บี: ผมไม่มีรถครับครู
ผม: เอ็งก็หายืมข้างบ้านสิ
บี: ไม่ดีกว่าครับ
ผม: เออเออไม่เป็นไรแค่นี้แหละ (เสียงผมเบาลงเหมือนจะร้องไห้ก็มันเสียใจครับ)

ลองดูคนที่สามสิ คนนี้รู้สึกรำคาญมันมากครับ เบื่อด้วย ไม่เคยพาไปเลี้ยงข้าวหรืออะไรเลย ซึ่งต่างจากคนที่ 1 และ 2
ผม : ต้น ซื้อข้าวให้ครูหน่อยสิ ครูไม่สบาย
ต้น : ครับ ได้ครับครู แล้วครูจะกินอะไร ต้นจะได้ซื้อไปให้
ผม : ข้าวผัดก็ได้ต้น
ต้น : ครับผมจะรีบไป

ผมดีใจมากครับ .....แต่ทำไมต้นไม่มาสักที หิวแล้วนะ ไอ้ห่าโกหกครึ่งชั่วโมงกว่าล่ะ ไม่ยอมมา ไม่ง้อล่ะ หลังจากนั้นผมได้เดินลงไปชั้นล่างเพื่อเตรียมตัวไปซื้อข้าวเอง หน้าผมนี่บูดสนิท ทันใดนั้นก็ได้เห็นต้นถือกล่องข้าวสีขาว เดินขึ้นมา
ผม : ต้นใครมาส่ง
ต้น : ผมเดินมาครับ
ผม: แล้วทำไมเอ็งไม่บอกว่าไม่มีรถ
ต้น: ไม่เป็นไรครับครู
บ้านของต้นห่างจากโรงเรียนประมาณ 4 กิโลครับ ผมแทบน้ำตาไหลออกมา ทำไมคนที่ผมไม่สนิทด้วยถึงดีกับผมเช่นนี้ ซึ่งต่างจากเด็กที่ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆมันต่างกันจริงๆ