บทที่ 16
บทที่ 16
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น สื่อถึงผมจะมีงานทำแล้ว ในที่สุดผมก็ได้เป็นครูอัตราจ้างของโรงเรียนบ่อไร่วิทยาคม เมื่อวันที่ 7 เดือน 7 ปี 2547 งบประมาณ 3 เดือน ของบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ด้วยความมึนงง ว่าทำไมเขาถึงให้ผมมาทำงาน อย่าคิดมากสิแฟงทำไปก่อน ก่อนวันเดินทางไปผมรีบไปซื้อมอร์ไซด์คันใหม่ ทันที ด้วยงบ 30000 บาท เกิดจากการเก็บสะสมตอนที่บวชพระมา 3 เดือน เตรียมเสื่อ หมอน ผ้าห่ม และเสื้อผ้าเพื่อเดินทาง ผมได้เป็นครูที่ปรึกษาของนักเรียนชั้น ม.3/2 เขาบอกว่า...ห้องนี้เป็นห้องที่เกเรที่สุด ก็ไม่หวั่นเสร็จไอ้แฟงแน่ 555 จะแน่ขนาดไหนเชียว ห้องแรกที่ผมได้สอน คือห้อง ม.6 จำได้ว่าต้องสอนโปรแกรม Excell อะไรนะ Excell มันคือโปรแกรมอะไร ผมไม่รู้เรื่อง ผมไม่เคยเรียน ทำไงดี ตายเป็นตาย ผมเดินเข้าไปในห้องที่มีนักเรียนนั่งคอยอยู่ ผมให้นักเรียนเปิดเครื่องและเปิดโปรแกรมขึ้นมา ผมทำอะไรไม่เป็นเลยครับ ระหว่างที่นักเรียนกำลังวุ่นวายกับการเปิดโปรแกรม ผมได้วิ่งไปห้องพักครูครับ ให้ครุสุลัคน์ (พี่ตูน) สอนผมแบบสดๆ แล้วก็วิ่งไปสอนเด็กตามที่พี่เขาสอน ถ้านักเรียนสงสัยอะไร ก็วิ่งไปถามพี่ตูนต่อ เหนื่อยมากครับ ที่ต้องทำแบบนี้ ความสุขมันเริ่มหาย มีแต่ความเครียด ตอนนี้ก็อยู่ในช่วงที่โรงเรียนจะประเมินโรงเรียนต้นแบบโรงเรียนในฝัน งานก็ยุ่งมาก ผมแทบจะช่วยอะไรใครไม่ได้เลยครับ พอเลิกเรียนทานข้าวเสร็จในช่วงเย็น ครูทุกคนก็มาทำงานที่โรงเรียนกันต่อ ทำไงได้ผมก็ต้องมา ก็เขามากัน บางทีก็นอนหลับ ในห้องคอม เหนื่อยมากครับที่ต้องมาทุกคืน เหนื่อยที่เป็นกังวลเรื่องการทำงาน การสอน ทุกๆอย่างที่เข้ามา ทำให้ผมท้อมากๆ เราจะไหวไหม นี่คือผลที่ไม่ได้ตั้งใจเรียน จบมาเพราะเพื่อนช่วย พูดถึง 3/2 ต่อครับ เวลาสอนเขาก็คุยกันไม่ฟัง ไอ้เป๋าตัวแสบ เวลาสอนก็เดินไปเดินมาไม่ยอมหยุด ยิ่งว่ายิ่งทำ มีปัญหากับห้องนี้มากๆ บางทีก็มีเรื่องที่ต้องคอยแก้ปัญหาตลอด ตัวผมน้ำตาไหลพรากเลยครับต่อหน้านักเรียนทุกคน ผมไม่ไหวแล้ว ผมจะข้ามผ่านสิ่งเหล่านี้ไปได้ยังไง การอบรมต่างๆก็เข้ามาตลอด ครูธิดา ก็ยกหน้าที่ถ่ายภาพ ถ่ายวีดีโอ และตัดต่อวีดีโอให้ผมอีก รู้ไหมว่าผมมันแย่มากๆแล้ว ยังดีนะที่พอตัดต่อวีดีโอเป็นบ้าง เฮ้อ เราจะอยู่โรงเรียนนี้ได้อีกกี่วัน และผมก็ได้ข่าวมาว่าจะไม่ต่อสัญญาให้ผม สมควรแล้วล่ะไอ้แฟง กรรมได้ตามสนองนายแล้ว