บทที่ 12
บทที่ 12
ผมคงต้องสู้ต่อใช่ไหม ผมถามตัวเอง มีคนที่รอดูความสำเร็จของเราอยู่ จะถอยไม่ได้ แม่กับยายเหนื่อยก็เพื่อตัวเรา สู้สิแฟง หลังจากนั้นผมก็พยายามไปโรงเรียนแต่เช้าเพื่อเข้าห้องสมุดของสถาบัน ภายในห้องสมุดจะมีห้องคอมพิวเตอร์ให้ผมเข้าไปเล่นอินเทอร์เน็ต ไปทุกวันก็เริ่มที่จะใช้เจ้าคอมได้บ้าง ผมมีเพื่อนอีก 3 คนครับ เขาคือนางฟ้าของผม ที่คอยดูแลเรื่องการเรียน งานส่วนใหญ่จะทำเป็นกลุ่มครับ มีปลั็ก ที่ผมเรียกเขาว่า อีเป็ด, นี สาวมั่นบุคลิกดี มาดคุณนายที่ตอนแรกไม่...ชอบเลย, ก้อย สาวแกร่ง ที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง ทั้งสามคนนี้จะคอยช่วยเรื่องการทำงานกลุ่มตลอดระยะเวลา 4 ปีครับ ผมไม่เคยลืม ทุกวันที่ผมมาเรียน จะมีเป้สะพายหลังมาตลอด ภายในเป้จะมีขวดน้ำของสถาบัน ผมต้องรีบมาโรงอาหารก่อนเพื่อนมา เพราะผมต้องรีบเอาขวดที่พกมาไปกรอกน้ำให้เต็มขวด จะได้ไม่ต้องไปซื้อ จริงแล้วกลัวเพื่อนเห็น ผมอาย บางทีผมต้องตื่นแต่เช้าเพื่อออกมาซื้อไก่ย่างและข้าวเหนียว ผมแบ่งทาน 2 มื้อ เช้าและกลางวัน ช่วงเช้าทานเสร็จก็เอาไปซุกไว้ก่อน เพื่อนำมาทานตอนกลางวันต่อ ผมทำแบบนี้บ่อยครับ ก็เงินมันไม่พอจริงๆ ไม่ต้องพูดถึงมาม่าครับ มันคืออาหารหลัก สมัยผมเรียนผมมีอาชีพ ผมรับจ้างซักผ้ารีดผ้า ของพี่ที่หอ เดือนล่ะ 300 บาท ตั้งแต่ ผ้าห่ม เสื้อ กางเกง รวมทั้งถุงเท้า ก็อดทนครับ เพื่อเราจะได้มีเงินใช้จ่าย ก็มีเที่ยวบ้าง แต่ถ้าไปไหนคนเดียวก็จะเดินไปมากกว่าถ้าไม่ไกลมากนัก เออ.ผมลืมบอกไปว่าผมย้ายหอมาอยู่ซอยสวนอ้อยแล้วเป็นหอชาย ก็ดีหน่อยแค่เดินข้ามถนนก็ถึงแล้ว นี ปลั๊กและก้อย ดีต่อผมมากครับในบางวันที่เราไปเที่ยวกัน พวกเขาก็เลี้ยงข้าวผมเป็นประจำ บางทีเขาก็ให้ขนมหรือผลไม้ผมกลับมาทานที่หอ เวลาผ่านมามากแล้วผมยังจดจำพวกเขาเสมอ ผมเรียนจบเพราะพวกเขา จริงๆแล้วก็มีคนอื่นๆอีกที่เป็นเพื่อนที่แสนดีสำหรับผมเขาไม่เคยรังเกียจความจนของผมเลย