 |
บทที่ 8 |
 |
บทที่ 8
|
| ผมโตเป็นหนุ่มแล้วครับ ผมเริ่มเข้าเรียนมัธยม ที่โรงเรียนตราดสรรเสริญวิทยาคม ด้วยเสียงทักท้วงจากหมู่ญาติมากมาย ว่าเด็กตราดสรรเสริญเป็นเด็กเกเร เด็กเหลือจากที่อื่น ครับผมได้แต่รับฟัง แต่ไม่ทำ ผมมุ่งมั่นที่จะเรียนที่นี่ เพราะเห็นว่าที่นี่น่าจะเหมาะสำหรับคนอย่างผม คิดแต่ว่าที่นี่คงใข้เงินในการเรียนน้อย ผมท่องอยู่เสมอว่าผมจน ยายจะบอกกับผมเวลาไปเที่ยวงานเทศกาลต่างๆ ว่า หนูเราไม่มีตังนะ อยากได้ของเล่นก็หยิบดูเอาแล้ววางคืนเขาไป เราไม่มีเงินซื้อ ผมก็ทำตา...มที่ยายบอกเสมอ หยิบเล่นแล้วก็วาง ไม่เคยงอแง เด็กขี้อายคนนึงที่ไม่มีความสามารถพิเศษอะไร ตัวผมแทบไม่มีอะไรให้ครูได้จดจำ ในช่วงมอต้น ผมแทบจะจำอะไรไม่ค่อยได้ รู้แต่เพียงว่าห้องของผมได้ไปอยู่ที่โรงเกษตรเพียงห้องเดียว ซึ่งห่างไกลจากเพื่อนห้องอื่นๆ ก็สนุกสนานกันเลยล่ะ โดยเฉพาะวิชาภาษาอังกฤษของครูสุนันทา บัวเล็ก (ท่านได้เสียแล้วด้วยโรคมะเร็ง) พวกเราต้องวิ่งรอบสนามก่อนเรียนทุกที แต่ก็สนุกครับเมื่ออยู่กับเพื่อน ผมเป็นคนเรียนปานกลาง ส่วนใหญ่เกรดเฉลี่ยประมาณ 2.7 เท่านั้น วิชาเลือกที่ผมเรียนคือเกษตร พอพูดถึงเกษตรมันมีเรื่องที่ต้องสารภาพกับครูกำพล 555 คงไม่มีใครรู้นะสิว่าผมทำอะไร คือว่าเวลาเรียนจะต้องนำปุ๋ยคอกมาส่งครู หลายครั้งมันก็ไม่ไหวครับ ก็เลยขโมยของที่ส่งแล้ว (เขาจะเอากองไว้ เอาใส่ถุงมาส่งอีก) ทำแบบนี้บ่อยมาก ปลูกผักครูให้เอาไปขาย ผมก็ไม่ขาย เอาเงินที่ผมเก็บไว้ไปส่งแทน เลยได้เกรด 4 ตายแล้ว ถ้าครูรู้จะเรียกผมไปลดเกรดไหมนี่ ขอโทษครับ ตอนนี้ผมเป็นครูแล้วคงได้ชดใช้กรรม เวลาปวดฉี่ก็วิ่งไปฉี่หลังหอพัก ซึ่งตอนนั้นจะมีหอพักนักกีฬาอยู่ใกล้ๆ ในช่วงวันพฤหัสพวกเราจะต้องนั่งรถมาสด้า ไปเรียนพิมพ์ดีดที่วิทยาลัยสารพัดช่าง ตอนนั้นมีให้เลือกเรียนคอมพิวเตอร์กับพิมพ์ดีด ผมอยากเรียนคอมแต่ไม่มีเงินจ่ายค่าเรียนเลยไม่ได้เรียน เวลาไปเรียนนายแฟงก็ไม่ตั้งใจ ไม่ใช้นิ้วตามที่เขาสอน สรุปเรียนจนจบใช้นิ้วสัมผัสไม่ได้ สมัยนั้นไม่ค่อยตั้งใจเรียนเท่าไร คงยังไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน ไม่มีอะไรที่จะมากระตุ้นต่อมคิดของผมเลย ได้แต่เพียงคิดในใจว่าเราจะเรียนให้จบให้ได้ และจะต้องไม่ทำให้ตราดสรรเสริญเสื่อมเสีย |
|